
รายงานการเรียนรู้ : จิตสมัครใจ ‘ปันสุขก็สุขใจ’ ให้ ‘เด็กน้อย’ บนภูเขาสูง
ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าปัญหาความแตกต่างยังคงเป็นประเด็นหลักในบริบทของการเล่าเรียน และก็สังคมไทย อีกทั้งทำเลที่ตั้ง ความมากมายหลากหลายของเผ่าพันธุ์ การตั้งถิ่นที่อยู่อาศัย ฐานรากด้านเศรษฐกิจ แล้วก็สังคมเมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ดี-แลนด์ กลุ่ม จำกัด ส่งพื้นที่ที่ช่องทาง และก็แบ่งปันความสำราญให้เยาวชนที่อยู่ในพื้นที่ไกลห่าง นำกลุ่มบุคลากรในหน่วยงาน และก็กลุ่ม GOLDGEAR 4×4 จัด “แผนการปันสุขก็สุขใจ ปี 2565” โดย “มูลนิธิคนดี ดี-แลนด์” เพื่อสืบต่อภารกิจช่วยเหลือ แล้วก็วิวัฒนาการเรียนรู้ให้กับเด็กๆในถิ่นกันดาร คราวนี้เดินทางไปร่วมปรับปรุงแก้ไขห้องเรียน ห้องหนังสือ และ มอบเครื่องที่ใช้ในด้านที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน เครื่องใช้ไม้สอยกีฬา เครื่องแต่งตัวกันหนาว และก็ของกินของใช้ให้กับน้องๆสถานที่เรียนบ้านหนองบัว ห้องเรียนสาขาบ้านมอเคลอะคี อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตากนายเพิ่มเกียรติยศ โพธิ์พยายามทองคำ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กลุ่ม จำกัด บอกว่า บริษัทเริ่มจากโครงงานเมื่อปี 2558 แล้วก็ปี 2563 ตั้งมูลนิธิคนดีฯ นำกลุ่มจิตสมัครใจ รวมทั้งผู้สนับสนุนทางธุรกิจ ด้วยกันสืบต่อพลังที่การให้ เช่น แก้ไขห้องเรียน หอสมุด สนามเด็กเล่น โรงอาหาร มอบอุปกรณ์การเรียน มอบเงินบริจาคให้โรงหมอ ฯลฯ เพื่อช่วยลดช่องว่างความแตกต่างด้านการศึกษา แล้วก็สร้างช่องทางให้เยาวชนพื้นไกลห่าง มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นคุณครูนุ นายสกุลชัยฐ์ สิโนชัยสกุล สถานศึกษาบ้านหนองบัวฯ วัย 43 ปี จาก จังหวัดร้อยเอ็ด สู่การเป็นคุณครู “ผู้บริจาค” บนภูเขาสูง เล่าว่า ไทยมีสถานที่เรียนบนพื้นที่สูงยิ่งกว่า 1,000 ที่ มีบริบทที่ไม่เหมือนกับสถานศึกษาที่ราบ
รวมทั้งชุมชนเมือง ความเหนื่อยยากสำหรับเพื่อการเดินทาง การเข้าถึงกระแสไฟฟ้า แหล่งน้ำ ผู้เรียนจำนวนมากใช้ภาษาท้องถิ่น รวมทั้งมาจากครอบครัวยากไร้สูง เหมือนกับสถานศึกษาบ้านหนองบัวฯ
เป็นห้องเรียนสาขาที่ไกลที่สุดในเขต อำเภอท่าสองยาง ห่างจากตัวอำเภอ 45 กิโล การเดินทางทุกข์ยากลำบาก สอนชั้นอนุบาล-เปรียญ6 มีนักเรียน 76 คน จำนวนมากเป็นมหาชนเชื้อสายกะเหรี่ยง“สำหรับผมแล้วการเป็นอาจารย์ มิได้เพียงแค่ให้การเล่าเรียน แต่ว่าอาจารย์ทุกคนตรงนี้ เป็นทุกสิ่งให้กับเด็กๆถึงแม้บางเวลาจะเหนื่อยบ้าง แต่ว่าสร้างความสบาย ผมต้องการมองเห็นเด็กๆเติบโตเป็นคนดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรู้ความสามารถประจำตัว ดูแลตนเอง รวมทั้งครอบครัวได้ พวกเขาบางทีอาจมิได้เรียนเก่งที่สุด หรือเรียนเยอะที่สุด ขั้นต่ำจำเป็นต้องได้รับสิทธิขั้นต้นทางการศึกษาที่ควรได้อย่างเสมอภาค” จบท้ายที่ น้องมณ เด็กหญิงมณฑิตา พงไพรบุญพักพิง อายุ 11 ปี ชั้น เปรียญ5 เสริมว่า บ้านหนูอยู่ห่างจากสถานศึกษามากมาย ทำให้จำต้องอยู่ประจำ ตอนกลางวันเรียนหนังสือ รวมทั้งแบ่งเวรไปช่วยอาจารย์ปรุงอาหาร ดูแลแปลงผัก เลี้ยงไก่ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบทำครัว ทุกคนจะได้กลับไปอยู่บ้านตอนปิดภาคการศึกษา หรือเสาร์-อาทิตย์ แม้กระนั้นตอนวัววิด-19 ระบาด สถานที่เรียนปิด เราจำต้องแยกย้ายไปอยู่บ้านตนเอง การเล่าเรียนจำต้องพักไว้ เรียนทางเน็ตมิได้ ด้วยเหตุว่าที่บ้านไม่มีโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไม่มีกระแสไฟฟ้า มีแม้กระนั้นคุณครูที่รอขับขี่รถเข้าไปสอนเราถึงหน้าบ้าน โดยไม่บ่นว่าเมื่อยล้าเลย โตขึ้นหนูต้องการเป็นอาจารย์ ต้องการแบ่งปันวิชาความรู้ให้ผู้เรียนในพื้นที่ไกลห่างรอยยิ้ม และก็เสียงหัวเราะจากเด็กๆในถิ่นกันดาร สถานที่เรียนบ้านหนองบัว ห้องเรียนสาขาบ้านมอเคลอะคี อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สะท้อนถึงความสำราญ สุขใจเมื่อเป็นผู้บริจาค แล้วก็อิ่มอกอิ่มใจเมื่อเป็นคนรับ เคลื่อนสังคมที่การเอื้อเฟ้อช่วยเหลือ แล้วก็เป็นสุขอย่างยั่งยืน
แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ก.ค.ศ.อนุมัติวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 20 ราย